กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทย และยังเป็นประเทศที่มีรถติดที่สุด ถือได้ว่าติดอันดับต้นๆของโลกกันเลยทีเดียว และถ้ายิ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วนแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะว่าจะติดหนักขนาดไหน มองไปทางไหนก็จะเจอแต่รถอัดแน่นเต็มไปหมด ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งรถเมล์ หรือจะเป็นรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดิน คนก็เยอะแถมยังแออัดกันอีก แล้วเรามีวิธีไหนบ้างในการที่จะหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนอย่างนี้
รูปภาพจาก pixabay.com
ก่อนอื่นเรามาดู คำศัพท์ ชั่วโมงเร่งด่วน กันก่อนดีกว่าค่ะ
ซึ่ง “ชั่วโมงเร่งด่วน” ก็คือช่วงเวลาเข้างาน
และช่วงเลิกงานนั่นเอง
上下班高峰期
(Shàng xià bān gāo fēng qī)
รูปภาพจาก pixabay.com |
搬家
Bān jiā
บางคนอาจจะย้ายที่อยู่
เพื่อให้ใกล้กับที่ทำงาน หรือที่เรียน เพื่อที่จะสะดวกในการเดินทาง และใช้เวลาเดินทางไม่นาน
รูปภาพจาก pixabay.com
早上早起出发
Zǎo shang zǎo qǐ
chū fā
ตื่นเช้าขึ้น และออกเดินทางเร็วขึ้น
เมื่อตื่นเช้า และออกเดินทางเร็ว เราก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ค่ะ
แถมยังมีเวลาเหลือเฟือเลย
รูปภาพจาก pixabay.com
早出晚归
Zǎo chū wǎn guī
อีกวิธีนึงค่ะ
นอกจากจะออกแต่เช้าแล้วช่วงเย็นก็กลับค่ำไปเลยเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (ถ้าทำจริง
คงเหนื่อยน่าดูนะคะ )
坐地铁、坐轻轨
Zuò dì tiě, Zuò
qīng guǐ
นั่งรถไฟใต้ดิน หรือรถไฟฟ้า แน่นอนหนีรถติดได้ แต่หนีคนไม่ได้ค่ะ
รูปภาพจาก pixabay.com
骑自行车
Qí zì xíng chē
ปั่นจักรยานไปเลย นี่ก็เป็นอีกวิธีนึงนะคะ
ในการหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าพูดถึงว่า ปั่นจักรยานในกทม.
ก็อาจจะไม่ปลอดภัยนัก
เพราะบ้านเรายังไม่มีเลนสำหรับให้รถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ
รูปภาพจาก pixabay.com
骑摩托车
Qí mó tuō chē
การขับมอเตอร์ไซค์ก็เป็นอีกวิธีนึงที่รวดเร็ว
และนิยมกันมากในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานครค่ะ
รูปภาพจาก pixabay.com
走路
Zǒu lù
เดิน เป็นวิธีที่เบสิค
และแน่นอนสามารถหลีกหนีชั่วโมงเร่งด่วนได้ดี แต่ การเดินนั้น ต้องใช้เวลาไม่เยอะนะคะ
ถ้าเดินซัก10 นาทีนี่ ยังถือว่าโอเค เพราะอากาศบ้านเรามันร้อนนนนนน
แต่สำหรับบางคนพอเห็นว่าชีวิตในกรุงเทพฯ
มันช่างแออัด และวุ่นวายซะเหลือเกิน ก็อาจจะเลือกไปใช้ชีวิต Slow
Life 慢生活 (Màn shēng huó) ในต่างจังหวัดแทนค่ะ
แต่ละคนก็มีวิธีที่หลากหลายในการที่จะหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนค่ะ
💦💦💦💦