แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วัดไตรมิตร 金佛寺 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วัดไตรมิตร 金佛寺 แสดงบทความทั้งหมด

2561/09/01

เที่ยววัดไตรมิตร 金佛寺



       ไชน่าทาวน์ไม่ได้มีแค่เรื่องกิน  แต่ยังมีวัดสำคัญที่ควรจะแวะไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่นั่นคุณจะเจอพระใหญ่ที่ทำจากทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก และที่นั่นก็คือ “วัดไตรมิตร” 金佛寺  Golden Buddha

        ก่อนอื่นเราไปดูประวัติของวัดไตรมิตรกันก่อนเลยค่ะ

        วัดไตรมิตร เมื่อก่อนไม่ได้ใช้ชื่อ"วัดไตรมิตร" นะคะ  ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์แล้ว  วัดนี้เป็นวัดที่สร้างโดยความร่วมมือของชาวจีน 3 คน ในช่วงปี พ..2382 (1839) เพราะด้วยเหตุนี้ชื่อที่วัดนี้จึงถูกเรียกว่า “วัดสามจีน” จนเมื่อถึงปี พ..2482 (1939)สมเด็จพระวันรัต ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดไตรมิตร” ซึ่งถือว่าเป็นชื่อที่ไพเราะกว่าชื่อเดิมมาก ซึ่งแปลจากภาษาไทยแล้วความหมายก็ยังคงหมายถึง “วัดที่สร้างโดยคน3 คน”

      "Wat Traimit" 或 "三友寺",之前是没有使用"Wat Traimit" 的名字 。根据记载,这该寺庙是在1839年间由三名华侨发心建造的佛寺,泰文叫做“Wat Samgene”意思是 “三华(人)寺”。到了1939年,当时副僧王旺纳乐长老把原来的寺名改做“Wat Traimit” 意思是 “三友寺”。新的寺庙名比较古雅,也同样表示了这是一座由“三个人”合建的佛寺。

       พระมหามณฑป大金刚宝阁

      จุดประสงค์หลักในการสร้าง “พระมหามณฑปพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” ก็เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60  ปี ในปี พ.ศ. 2549 และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี พ.ศ. 2550  และ มีความมุ่งหวังว่า พระมหามณฑปหลังใหม่นี้ จะมีความวิจิตรงดงามควรค่าแก่องค์หลวงพ่อทองคำ ซึ่งพระมหามณฑปหลังได้นำ หินอ่อน มาใช้ในการก่อสร้างนี้ โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี
       建 "大金刚宝阁" 的目的是 为了庆祝我们泰国第九世皇80大寿,该佛殿的结构中使用了白色大理石,用了差不多2年的时间才建好。

พระมหามณฑป ในวัดไตรมิตรวิทยาราม มีทั้งหมดด้วยกัน 4  ชั้น
大金刚宝阁,总共有4层,就是


     ชั้นที่1 คือพื้นที่จอดรถ
     第一层是,停车场


     ชั้นที่2 คือ ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช 
      第二层是,唐人街博物馆

     ชั้นที่ 3 คือ นิทรรศการหลวงพ่อทองคำ
      第三层是, 大金佛展示


       ชั้นที่ 4 คือวิหารพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
        第四层是,金佛殿

    ** นิทรรศการที่ชั้น2และชั้น 3 เปิดให้บริการวันอังคาร ถึงวันอาทิตย์ เวลา 08:00-16:30.
    ** พระมหามณฑปชั้น 4 เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา  08:00 - 17:00.

      门票共100泰铢,四楼金佛殿,门票40泰铢

เรามาดูประวัติของพระพุทธรูปทองคำกันค่ะ

   พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ)

   พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย แต่เดิมประดิษฐานอยู่ในวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย แต่เนื่องจากภายนอกองค์พระพุทธรูปถูกโบกทับด้วยปูน ทำให้เข้าใจกันว่า พระพุทธรูปองค์นี้คือ “พระพุทธรูปปูนปั้น” ค่ะ ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ได้ถูกอัญเชิญมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 ซึ่งคราวนั้นได้อัญเชิญมาประดิษฐานอยู่ที่วัดโชติการาม(หรือวัดพระยาไกร เขตยานนาวา) ซึ่งต่อมาในช่วง ร. 5 วัดพระยาไกรกลายเป็นวัดร้าง เพราะว่าได้ให้ทาง บริษัท อิสเอเชียติ๊ก จากเดนมาร์กได้เช่าพื้นที่วัดเพื่อเป็นโรงเลื่อยจักร ซึ่งในวัดพระยาไกรนี้ได้ประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ 2  องค์ องค์แรก คือ “พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์” องค์ที่สอง คือ “พระพุทธรูปปูนปั้น”  องค์แรกนั้นได้ถูกอัญเชิญไปไว้ที่ วัดไผ่เงินโชตนาราม ส่วนพระพุทธรูปปูนปั้นนั้นได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดไตรมิตร ซึ่งได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาไว้ข้างๆเจดีย์องค์หนึ่งของวัดไตรมิตรฯ เป็นเวลาประมาณเกือบ 20 ปี

     大金佛是素可泰艺术风格的降魔佛,原来供奉在素可泰城的“舍利寺”,因为佛身上给盖上一层水泥,所以大家都以为这是一尊“泥塑大佛”。这尊“泥塑大佛”,在曼谷王朝第三世皇时代,就把大佛请到曼谷来了,当年大佛被供奉在曼谷的光明寺里,后来到了曼谷王朝第5世皇时代,光明寺成为一座废弃的寺庙,寺庙把地方租给丹麦公司,来办一家锯木厂 。光明寺里面供奉着两尊大佛;一是,“铜佛像”,二是“泥塑佛像”。“铜佛像”就被送到 Wat Phai Ngoen Chot Na Ram,而“泥塑佛像”却送到 “三友寺”。当时的泥塑佛像大佛暂时给安置在一座佛塔的旁边共约20年。

        จนได้มีการก่อสร้างพระวิหารขึ้นมาเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เท่านั้นค่ะ เมื่อวิหารสร้างแล้วเสร็จ ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปเพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานในวิหารที่สร้างใหม่ ปรากฏว่าปูนได้กะเทาะออกเห็นเป็นทองคำอยู่ข้างใน ซึ่งได้รับการบันทึกในหนังสือกินเนสส์บุ๊คว่าเป็น "ปูชนียวัตถุที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก"  จนเมื่อกระทั่งปี พ.ศ. 2551 ได้ถูกอัญเชิญเคลื่อนย้ายเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อประดิษฐาน ณ พระมหามณฑป เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551 รวมระยะเวลาที่ประดิษฐานในพระวิหารหลังเดิมทั้งสิ้น 52 ปี
        当时该佛殿的目的只是为了供奉这尊具有历史性的泥塑大佛。佛殿盖好了,正要把大佛抬上佛殿的时候,大佛外层水泥裂开了,才发现里头竟是一尊金佛。世界纪录,已经给金佛作了记录,说这是“世界上最宝贵的宝藏”。到了 2008年,金佛就搬到“大金刚宝阁”。所以这尊金佛已经供奉在旧的佛殿  52 年。

     พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ)สูง 3.90 เมตร หน้าตักกว้าง 3.10เมตร หนักประมาณ   5.5ตัน
金佛的高度是3.90米,膝部的宽度是3.10米,大约有五吨半重



ด้านหลังขององค์พระ


มีเกร็ดความรู้เล็กมาฝากค่ะ เราดูจากอะไรถึงบอกได้ว่า หลวงพ่อทองคำ องค์นี้เป็นศิลปะสมัยสุโขทัย ซึ่งมีด้วยกัน 8 ข้อ(ที่พี่ออนนี่คัดมา8ข้อเด่นๆนะคะ)  
从哪儿写可以分辨出来这尊佛像是属于素可泰艺术的呢?素可泰神佛像的特色有以下8点,

      พระรัศมีเป็นเปลวไฟ
  佛光为火焰状

      ขมวดพระเกศาค่อนข้างเล็ก
   螺状佛发比较小

      พระขนง(คิ้ว)โก่ง
   佛眉弯

      พระพักตร์(ใบหน้า)รูปไข่
    佛面呈鹅蛋形
    
       พระโอษฐ์ ( ริมฝีปาก)ยิ้ม
佛口微笑张开
     
      บั้นพระองค์(เอว)คอด 
   佛腰细

       จีวรยาวลงมาจรดพระนาภี  (สะดือ) ปลายแฉกเป็นรูปเขี้ยวตะขาบ
     袈裟到佛脐,前端呈蜈蚣齿状

       ฐานที่รององค์พระทำเป็นกลีบบัวที่ฐาน
    底座是莲花座

*ในส่วนของศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ชั้น2  และชั้นที่ 3  นิทรรศการหลวงพ่อทองคำนั้น ทางพี่ออนนี่ไม่ได้เข้าไปชมนะคะ เลยไม่มีรูปมาฝากกัน 

**อ้อ และที่วัดนี้ ถ้าเราบอกคนจีนว่า จะพาไป 三友寺 คนจีนบางคนอาจจะไม่รู้จักนะคะ แต่ถ้าพูดว่า 金佛寺 รับรองได้เลยค่ะ ว่าคนจีนจะรู้จักกัน นั่นเป็นเพราะว่า ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปทองคำนั่นเอง คนจีนชอบเอาสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญเอามาตั้งเป็นชื่อเพื่อให้เข้าใจง่ายค่ะ

ผิดพลาดประการใด สามารถเข้ามาแนะนำได้ค่ะ

คำศัพท์ภาษาจีนที่ใช้ในสนามกอล์ฟ 高尔夫球场

高尔夫球场 gāo ěr fū qiú chǎng   สนามกอล์ฟ 高尔夫练习场 gāo ěr fū liàn xí chǎng  สนามฝึกซ้อม 高尔夫车 gāo ěr fū chē    รถกอล์ฟ 高尔夫球杆 gāo ěr fū qiú g...